24 กันยายน 2024
6 วิธี รับมือ ความเครียดจากการทำงาน ช่วยให้การทำงานดีขึ้นมาก!
ความเครียดจากการทำงาน เป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพกายและใจ รวมถึงประสิทธิภาพในการทำงาน การรับมือกับความเครียดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขกับการทำงานมากยิ่งขึ้น
และนี่คือ 6 วิธีรับมือ ความเครียดจากการทำงาน ที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ให้เข้ากับตนเองได้ ดังนี้
1.จัดการเวลาให้ดีมากขึ้น
การวางแผนและจัดตารางเวลาการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้เราสามารถควบคุมงานได้ดีขึ้น ลดความรู้สึกเร่งรีบ และลดความเครียดที่เกิดจากการทำงานไม่ทันเวลาได้
- ทำความเข้าใจปริมาณงาน: ประเมินปริมาณงานที่ต้องทำในแต่ละวัน หรือแต่ละสัปดาห์ เพื่อวางแผนเวลาได้อย่างเหมาะสม
- แบ่งงานเป็นส่วนย่อย: แบ่งงานใหญ่ๆ ออกเป็นงานย่อยๆ ที่สามารถจัดการได้ง่ายขึ้น และกำหนดเวลาสำหรับแต่ละงาน
- ใช้เครื่องมือช่วย: ใช้ปฏิทิน, โปรแกรมจัดการงาน หรือแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อช่วยในการจัดการเวลาและติดตามความคืบหน้าของงาน
- หลีกเลี่ยงการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน: การโฟกัสที่งานเดียวในแต่ละครั้งจะช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2.แบ่งงานเป็นส่วนย่อย
เมื่องานดูเยอะและซับซ้อน ลองแบ่งงานออกเป็นส่วนย่อยๆ ที่จัดการได้ง่ายขึ้น จะช่วยให้เรารู้สึกว่างานไม่หนักจนเกินไป และสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
- กำหนดลำดับความสำคัญ: จัดลำดับความสำคัญของงาน โดยเริ่มจากงานที่สำคัญและเร่งด่วนก่อน
- ตั้งเป้าหมายย่อย: ตั้งเป้าหมายเล็กๆ สำหรับแต่ละงาน เพื่อให้รู้สึกว่างานไม่หนักจนเกินไป และสามารถบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
- ให้รางวัลตัวเอง: เมื่อทำภารกิจย่อยเสร็จสิ้น ให้รางวัลตัวเองเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจ
3.พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น
- นอนหลับให้ครบ 7-8 ชั่วโมง: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อนและฟื้นฟู
- สร้างตารางนอนที่สม่ำเสมอ: พยายามเข้านอนและตื่นนอนในเวลาเดียวกันทุกวัน เพื่อปรับนาฬิกาชีวิตให้เป็นปกติ
- สร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการนอน: ทำให้ห้องนอนมืด สงบ และเย็นสบาย
4.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีในการลดความเครียดและเพิ่มพลังงาน การออกกำลังกายเพียงเล็กน้อยทุกวันก็สามารถช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้
- เลือกกิจกรรมที่ชอบ: การออกกำลังกายที่ชอบจะช่วยให้เราทำได้อย่างต่อเนื่อง
- ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน: การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มระดับสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข
5.เรียนรู้ที่จะพูดปฏิเสธ
การเรียนรู้ที่จะปฏิเสธงานที่เกินความสามารถหรือไม่จำเป็น จะช่วยให้มีเวลาในการทำงานที่สำคัญและลดความเครียดที่เกิดจากการทำงานเกินตัว
- ตั้งขอบเขต: กำหนดขอบเขตของงานที่เราสามารถทำได้
- เรียนรู้ที่จะปฏิเสธ: ปฏิเสธงานที่เกินความสามารถหรือไม่จำเป็นด้วยความสุภาพ
- ขอความช่วยเหลือ: หากงานล้นมือ ให้ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชา
6.ขอความช่วยเหลือ
หากรู้สึกว่าไม่สามารถจัดการกับความเครียดได้ด้วยตัวเอง ให้ลองปรึกษาเพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
- ปรึกษาเพื่อนร่วมงาน: พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจ
- ปรึกษาผู้บังคับบัญชา: หากปัญหาเกิดจากงาน ให้ปรึกษาผู้บังคับบัญชาเพื่อหาทางแก้ไข
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากความเครียดรุนแรง อาจต้องปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา
การปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถรับมือกับความเครียดจากการทำงานได้ดีขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
- สร้างบรรยากาศการทำงานที่ผ่อนคลาย: จัดระเบียบโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ตกแต่งโต๊ะทำงานด้วยสิ่งที่ชอบ
- สื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน: การพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับปัญหาที่คุณกำลังเผชิญ อาจช่วยให้รู้สึกดีขึ้นและได้รับคำแนะนำที่อาจจะนำมาปรับใช้ได้
- เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง: อย่ากังวลมากเกินไปกับเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้
- มองโลกในแง่ดี: การมองโลกในแง่ดีจะช่วยให้เรารู้สึกมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น
การรับมือกับความเครียดจากการทำงานเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม แต่หากเรามีความมุ่งมั่นและปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ จะช่วยให้เราสามารถเอาชนะความเครียดและทำงานได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
FDI Recruitment
📧 E-mail : infojob@fdirecruit.co.th
🔎 Line@ : @jobfdi (https://line.me/R/ti/p/%40jobfdi)
📞 Phone : 02 642 6866
🌐 www.fdirecrit.co.th